ทำไมตลาด AGV จึงเฟื่องฟูในยุคนี้ ?
ย้อนกลับไปในปี 1950 ผู้ผลิตรถยนต์ได้ใช้ Guided Vehicle ในโรงงาน เพื่อประกอบและแยกชิ้นส่วนเครื่องจักร ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้มีการพัฒนาวิธีการต่างๆ เพื่อการเคลื่อนย้ายในโรงงานจนกลายเป็นการพัฒนาหุ่นยนต์เคลื่อนที่ ซึ่งมีเทคโนโลยีกว่าครึ่งโหลที่ใช้ Guided Vehicle ในการตอบโจทย์การใช้งานในตอนนี้ เช่น
– self-guided
– line-guided
– opto-guided (by lines marked on the ground)
– geo-guided
– laser guided
– หรือแม้กระทั่ง guided by ultrasound.
ทั้งหมดนี้ถูกจัดกลุ่มไว้ภายใต้ AGV ซึ่งในปัจจุบันตลาดนี้มีมูลค่ากว่า 550 ล้านยูโร โดยส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป และอาจถึง 1.35 พันล้านยูโรภายในปี 2566 ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดที่ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากบริษัท e-commerce ที่ทำให้เกิดการพัฒนาขึ้นอย่างทวีคูณ โดยลำดับความสำคัญในการนำ AGV มาใช้ประโยชน์คือการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ internal logistics ได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับการกำหนดและลำดับรายการต่างๆ และการจัดส่งที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดย Amazon ถือเป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่ผสานรวมเทคโนโลยี AGV โดยการสร้างยานพาหนะอัจฉริยะของตัวเอง และยังใช้โซลูชั่นนี้ในคลังสินค้าอัตโนมัติอีกด้วย ซึ่งข้อดีของ AGV คือสามารถจัดการกับปัญหาที่เฉพาะเจาะจงได้
intralogistic robot เหล่านี้ ถูกนำใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ในด้านการขนส่งสินค้าสู่บุคคล โดยที่ AGV จะขนส่งสิ่งของรวมถึงของที่มีน้ำหนักมากไปยังคนงานโดยตรง ซึ่งวิธีการทำงานนี้เรียกว่า cobotics ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ และ AGV ให้การตอบสนองที่เหมาะสมที่สุด โดยรับภาระงานที่ต้องใช้แรงงานและซ้ำซากจำเจ
ทำไม AGV จึงเป็นคำตอบของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ?
ด้วยการพัฒนาธุรกิจประเภท e-commerce ทำให้การบริการด้านโลจิสติกส์ต้องการโซลูชั่นใหม่ๆ ซึ่ง AGV สามารถจัดการกับปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในกระบวนการจัดจำหน่ายได้ ดังนี้
– อย่างแรกและสำคัญที่สุดคือ ธุรกิจสามารถเพิ่มผลผลิต ความเร็ว และคุณภาพได้ โดยให้ผู้ปฏิบัติงานทำการประมวลผลและผลิตสินค้าได้ในปริมาณที่มากขึ้น ในขณะที่ยังคงคุณภาพและความน่าเชื่อถือไว้ได้ ซึ่งวิธีการนี้เร็วกว่า 30% เมื่อเทียบกับมนุษย์ที่ทำงานคนเดียว และมีข้อผิดพลาดน้อยกว่า ดังนั้น บริษัทต่างๆ จึงสามารถดำเนินการตามคำสั่งซื้อได้รวดเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกันก็ให้ความปลอดภัยแก่ผู้คนและสินค้ามากขึ้นอีกด้วย
– AGV ช่วยให้การทำงานของพนักงานดีขึ้น ด้วยการใช้เครื่องจักรเข้ามาทำงาน ซึ่งช่วยลดความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อและกระดูก (MSD) และอุบัติเหตุในที่ทำงานของพนักงานได้เป็นอย่างมาก และนี่คือจุดประสงค์ของ cobotics (collaborative robotics) ที่ช่วยลดอาการเจ็บป่วยของพนักงานรวมถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในการทำงานได้
– นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดพื้นที่ในคลังสินค้า เนื่องจากการจัดระเบียบที่ดีขึ้นและการปรับพื้นที่ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น จะเป็นข้อได้เปรียบด้านพื้นที่ใช้สอยในอาคารเป็นอย่างมาก ซึ่งการใช้พื้นที่ทุกตารางเมตรให้ประหยัดและคุ้มค่านั้นแสดงให้เห็นถึงผลกำไรทางการเงินของธุรกิจได้
ส่วนในแง่ของการผลิตนั้น สามารถเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนได้ภายใน 1-2 ปี
อะไรคือข้อจำกัดและความท้าทายของผู้ผลิต/ผู้ออกแบบโซลูชั่น AGV
ก่อนที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ โดยเฉพาะในด้านโลจิสติกส์ ผู้ผลิตต้องจัดการกับข้อจำกัดต่างๆ โดยที่ AGV ต้องมีความน่าเชื่อถือและความทนทานในระยะยาว เพื่อให้สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องบำรุงรักษาเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของคลังสินค้า เพราะการ downtime นั้น ส่งผลให้เกิดการสูญเสียทางการเงินเป็นจำนวนมาก
AGV ต้องมีขนาดกะทัดรัดเพื่อให้เจ้าของกิจการสามารถนำไปใช้ในคลังสินค้าขนาดเล็กและลดต้นทุนการดำเนินงานได้ แต่ขนาดเล็กอย่างที่ว่านั้นยังคงต้องสามารถบรรทุกของหนักได้ ซึ่ง AGV ต้องมีความแข็งแรงและพลังเป็นอย่างมาก ด้วยความต้องการเหล่านี้จึงกลายเป็นพื้นฐานสำคัญของการออกแบบและผลิต AGV ด้วยการย่อขนาดให้เล็กลง เพื่อให้ประหยัดพื้นที่ มีระบบขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความทนทาน
Quicktron AGV ดีอย่างไร ?
ด้วยความสามารถในการขนส่งและลำเลียงสินค้าทำให้ Quiktron AGV สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานในไลน์การผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมได้อีกด้วย การนำระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยจัดการระบบคลังสินค้า หรือการขนส่งสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นทางเลือกที่ดีในการปรับตัวเพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่ง AGV สามารถตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้เป็นอย่างดี
สามารถนำ Quicktron AGV ไปใช้ในงานใดได้บ้าง ?
Solution หลักในการทำงานของ AGV มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน คือ หยิบ คัดแยก และขนส่งภายใน
- Picking การเบิก หรือหยิบสินค้าคลังสินค้าขนาดใหญ่ เดิมทีผู้เบิกสินค้าต้องลากรถ หรือ Tote box เพื่อหยิบสินค้าตาม Order ซึ่งต้องใช้เวลา และแรงงานเป็นอย่างมาก AGV เข้ามาช่วยให้ Solution นี้ง่ายขึ้น
Intelligent picking ผู้หยิบสินค้ายืนอยู่กับที่ใน ตำแหน่ง Picking Area ในพื้นจัดเก็บสินค้าภายในคลังจะมีเพียงหุ่นยนต์ AGV ที่วิ่งนำชั้นวางสินค้ามาส่งให้มนุษย์ตาม Order
ซึ่งใน Solution ภายในคลังสินค้านี้ (Warehouse Solution) การนำ AGV มาใช้ยังสามารถครอบคลุมถึงระบบการเติมสินค้า (Replenishment) และการนับ Stock สินค้า (Inventory Count) อีกด้วย
- Sorting คัดแยกสินค้าเพื่อการนำส่งสินค้าหรือพัสดุไปยังพื้นที่ต่างๆ เดิมทีการคัดแยกพัสดุหรือสินค้าเพื่อการจัดส่งจะทำการคัดแยกตามพื้นที่ปลายที่ต้องนำพัสดุเหล่านั้นไปส่ง ผู้คัดต้องแยกตามรหัสพื้นที่ แล้วนำสินค้าเหล่านั้นไปใส่ลงถุง หรือรถคันเดียวกันIntelligent sorting เพียงนำสินค้าหรือพัสดุวางลงบน AGV จากนั้น AGV เหล่านั้นจะนำพัสดุไปใส่ลงในถุง หรือรถรวมพัสดุปลายทางได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ซึ่ง Solution นี้เหมาะกับธุรกิจให้บริการขนหรือนำส่งสินค้า (Shipping) เป็นอย่างยิ่ง
- Carrying ขนส่งชิ้นส่วนในไลน์ประกอบ หรือไลน์การผลิต เดิมทีต้องใช้แรงงานมนุษย์ในการขนส่งวัสดุ หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการประกอบสินค้าในแต่ละ lot เข้าไปในไลน์การผลิต เพื่อให้ผู้ประกอบสามารถนำมาใช้ได้อย่างถูกต้องและว่องไว
- Intelligent carrying ขนส่งอะไหล่ หรือชิ้นส่วนการประกอบเข้าไปที่ work station ต่างๆ ภายในไลน์การผลิตได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องใช้แรงงานมนุษย์ในการแบกหาม ซึ่ง Solution นี้เหมาะกับอุตสาหกรรมการผลิตทุกประเภท
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ รู้จักกับ Quicktron AGV เพื่อดูประโยชน์และความสามารถในการจัดการคลังสินค้าที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น และตัวอย่างการนำไปใช้งานจริง
เรียบเรียงและแปลข้อมูลจาก : https://www.manufacturingtomorrow.com/article/2021/05/why-agvs-can-be-the-solution-in-logistics/17091/
